ถ้าจะมีคำปลอบใจให้กับแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งจะต้องยอมเสียเงินค่าตั๋วเพิ่มนัดละ 7 ปอนด์ ในฤดูกาลหน้าสำหรับที่นั่งที่ดีที่สุดในสนาม ก็คงจะเป็นมาร์ค ฮิวจ์ส ยืนยันว่าทีมปีศาจแดง จะกลับมาน่ากลัวสำหรับคู่แข่งอีกครั้งในฤดูกาล 2005/06
ตำนานแห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด ผู้นี้ยังหนุนหลังรุด ฟาน นิสเตลรอย ว่าจะเริ่มกลับมาทำประตูให้ทีมได้อีกครั้ง
“ผลงานในช่วงหลังของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถือว่ายอดเยี่ยมมาก ถ้ามันไม่เป็นเพราะคู่แข่งคือเชลซี และฤดูกาลที่เป็นอยู่นี้ล่ะก็แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะต้องอยู่ในตำแหน่งอันดับหนึ่งอย่างสบายทีเดียว“ สปาร์กี้ กล่าว
“เชลซี เป็นทีมที่ดีมาก และดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำให้สำเร็จได้ในตอนนี้ แต่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีความสามารถอันยอดเยี่ยม พวกเขาจะกลับมาท้าทายคู่แข่งอีกครั้งในฤดูกาลหน้าอย่างแน่นอน“
สำหรับศูนย์หน้าชาวดัทช์ของทีม ที่ยังทำประตูไม่ได้เลยใน 7 นัดที่ลงสนามหลังจากกลับมาจากการบาดเจ็บนั้น ฮิวจ์ส ยังคงให้ความหวังอยู่
“มันเป็นเรื่องยากเมื่อคุณต้องหยุดเล่นไปเพราะอาการบาดเจ็บ ผลงานของรุด บ่งบอกอยู่แล้วในตัวเอง และมันก็เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้นก่อนที่นักเตะที่มีความสามารถระดับเขาจะกลับมาเล่นได้ในระดับเดียวกับก่อนได้รับบาดเจ็บ ไม่มีความกังวลใดๆ ในเรื่องนี้ เขาเป็นศูนย์หน้าชั้นยอดและยังคงจะเป็นเช่นนั้นอยู่“ นายใหญ่แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส กล่าวเพิ่มเติม
“คุณต้องมีประตูซักลูกเพื่อให้คุณกลับมาเล่นได้ดีอีกครั้ง มันเป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น เขาเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าที่ดีที่สุดในโลก และความสามารถแบบนั้นจะไม่มีทางหายไป“
“ผมไม่คิดว่าเขามีโอกาสมากมายนักเนื่องจากวิธีการเล่นของเขา สักวันหนึ่งเมื่อเขามีโอกาสงาม เขาจะต้องทำได้“
ความยุ่งเหยิง
ดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่นไปหมด เมื่อแฟนบอลแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้เห็นทีมของพวกเขาไม่สามารถทำประตูได้ในพรีเมียร์ชิพเป็นนัดที่ 6 ในฤดูกาลนี้ เพียงแค่ 24 ชั่วโมงหลังจากที่พวกเขาได้ยินว่าจะต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกเพื่อเข้าชมในฤดูกาลหน้า
ความคิดที่ไม่ค่อยจะช่วยให้ดีขึ้นเลยก็คือ เงิน 4 ล้านปอนด์ที่จะได้จากค่าตั๋วที่เพิ่มขึ้นจะนำมาชดเชยกำไรส่วนที่ลดลงไปของปีศาจแดง
ห่านที่ออกไข่เป็นทองเริ่มจะดูเหมือนนกแก่ๆ ที่สกปรกมอมแมม
การได้เวย์น รูนี่ย์ มาโดยการทุ่มเงินซื้อไปมหาศาลทำให้เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จะต้องชดเชยด้วยการขายนักเตะเก่าๆ ออกไป
ดิเอโก้ ฟอร์ลัน และเอริค เฌมบ้า เฌมบ้า ถูกขายออกไปแล้วในฤดูกาลนี้โดยได้มา 4 ล้านปอนด์ และผู้เล่นที่ไม่ประสบความสำเร็จอย่างเคล็บแบร์สัน, เลียม มิลเลอร์ และ เดวิด เบลลิยง อาจจะถูกขายออกไปด้วย
การจากไปในตอนสิ้นสุดฤดูกาลนี้ของผู้รักษาประตูที่หมดสัญญาลงอย่างรอย คาร์โรลล์ และริคาร์โด้ โลเปซ จะทำให้มีที่ว่างในการจัดการเรื่องค่าเหนื่อยได้
อย่างไรก็ตาม จะต้องหาผู้เล่นมาแทนพวกเขาซึ่งต้องสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องปราการด่านสุดท้ายในแนวรับของทีมให้ได้ มอร์แกน เดอ ซองติส ของอูดิเนเซ่ เป็นคนล่าสุดที่ถูกคาดหวังว่าน่าจะเป็นผู้เล่นใหม่ที่จะมาช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งระหว่างเสาทั้งสองได้ แต่ค่าตัวของนักเตะอิตาเลี่ยนวัย 28 ปีผู้นี้น่าจะอยู่ที่ 6 ล้านปอนด์ แล้วเฟอร์กี้ จะต้องสนใจในส่วนไหนอีกเพื่อแผนการสร้างทีมใหม่ของเขา
การศึกษาตารางคะแนนพรีเมียร์ชิพอย่างคร่าวๆ และผลการแข่งขันของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลนี้ ทำให้ได้ข้อสรุปอย่างง่ายดายว่า การทำประตูเป็นสิ่งที่ปีศาจแดงขาดอยู่
แฟนบอลสนใจถึงการเสมอ 0-0 ถึง 6 ครั้งในพรีเมียร์ชิพภายในเวลา 8 เดือน ซึ่งเทียบเท่ากับที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยทำโดยใช้เวลาถึง 6 ฤดูกาลที่ผ่านมา
การทำได้เพียง 48 ประตูในลีกจนถึงขณะนี้กำลังจะเป็นผลงานที่ย่ำแย่ที่สุด เมื่อย้อนไป 14 ปีที่แล้วพวกเขาทำได้ 56 ประตูในฤดูกาล 1990/91
นี่เป็นทีมเดียวกับที่เมื่อปี 2000 ทำประตูในลีกได้น้อยกว่า 100 เพียง 3 ประตูเท่านั้น
การโต้เถียง
มีการโต้เถียงกันว่า รูปแบบการเล่นของทีมในพรีเมียร์ชิพ ที่เป็นการเล่นแบบขอไม่แพ้เอาไว้ก่อนเริ่มมีมากขึ้น คู่แข่งเมื่อวันเสาร์อย่างแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ก็เป็นหนึ่งในทีมที่เล่นแบบนี้
พวกเขาทรหดอดทน และตั้งใจเล่น และตั้งรับอย่างเหนียวแน่น แต่ในปี 2000 ก็ยังมีทีมอย่างแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส, เบอร์มิงแฮม ซิตี้ และเอฟเวอร์ตัน อยู่ไม่ใช่เหรอ
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สูญเสียความมั่นใจไปหมด เมื่อแบรด ฟรีเดล ป้องกันประตูไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงต้นเกมโดยหยุดลูกโหม่งของเวย์น รูนี่ย์ และมิเกล ซิลแวสตร์, ลูกยิงที่สุดยอดของรูนี่ย์ ชนเสาอย่างแรง, ลูกยิงที่สวยงามของ รอย คีน ก็ชนเสาอีก และการช่วยทีมเอาไว้ของพีเดอร์เซ่น ที่สกัดบอลออกมาจากเส้นจากการโหม่งอีกครั้งของซิลแวสตร์
พวกเขาขาดการสร้างสรรค์เกมในการเจาะแนวรับ และพบกับความลำบากที่สปาร์กี้ ได้วางเอาไว้ในการป้องกันประตูของเขา
เฟอร์กี้ จะไม่มองไปที่การปรับเปลี่ยนศูนย์หน้าของเขาในช่วงซัมเมอร์เพื่อแก้ไขปัญหานี้ แม้ว่าจะขาดแคลนการยิงประตู ศูนย์หน้าทั้งสี่ ฟาน นิสเตลรอย, รูนี่ย์, อลัน สมิธ และหลุยส์ ซาฮา ซึ่งมีค่าตัวรวมกัน 68 ล้านปอนด์ เมื่อพวกเขาฟิตสมบูรณ์ ก็จะเป็นการรวมกันที่คุณไม่สามารถแบ่งแยกได้
อย่างไรก็ตาม การมีเครื่องมือในการเจาะกองหลังที่แข็งแกร่งเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ฟื้นคืนกลับมาในฤดูกาลหน้าในสายตาของแฟนบอล
เมื่อพลังการยิงประตูของปีศาจแดง อยู่ในจุดสูงสุดในปี 2000 มันไม่ใช่เพราะโคล, ยอร์ค, เชอริงแฮม และโซลชาร์ ที่ได้รับการชื่นชมว่าเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จ แต่เป็นการประสานกันของกองกลาง 4 คนอย่างเบ็คแฮม, คีน, สโคลส์ และกิ๊กส์
3 ใน 4 คนนั้นยังอยู่ แต่ด้วยอายุที่มากขึ้นอีก 5 ปี
การเปลี่ยนแปลง
ไรอัน กิ๊กส์ ได้รับบาดเจ็บหลังจากที่เล่นไปได้เพียง 6 นาทีเท่านั้น และแม้ว่าจะได้พักจากการเล่นทีมชาติในช่วงกลางสัปดาห์พอล สโคลส์ ก็ดูอ่อนกำลังอย่างแปลกๆ ในเกมกับแบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ที่ผ่านมารอย คีน ลงเล่นแทนที่ กิ๊กส์ และเป็นอย่างที่คาดไว้เขาเล่นอย่างกระตือรือร้นและแข็งแกร่ง แต่เขาก็ยังไม่สามารถกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมได้
มีช่องว่างเกิดขึ้นในแผงกองกลาง ที่แม้กระทั่งผู้เล่นที่โดดเด่นและมีประสบการณ์ก็ไม่สามารถเติมเต็มได้ในฤดูกาลนี้
ไม่ต้องสงสัยว่าพวกเขาทั้งหมดจะยังคงอยู่ในฤดูกาลหน้า แต่กองกลางตัวกลางที่ฉลาดและมีพลังเป็นเป้าหมายที่แฟนบอลต้องการให้เฟอร์กี้ เซ็นสัญญามาให้ได้จะเป็นใคร
มิคาเอล เอสเซียง ที่กำลังมาแรงของลียง เป็นตัวเลือกลำดับแรกในสายตาคนส่วนมากที่จะเพิ่มความร้อนแรงและความแข็งแกร่งให้กับห้องเครื่องของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
บัญชีการเงินที่เข้มข้นในโอลด์ แทรฟฟอร์ด จะสามารถลงทุนคว้าตัวกองกลางชาวกานาวัย 22 ปีผู้นี้ได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่เดวิด กิลล์ ประธานบริหารและบอร์ดบริหารของเขาเท่านั้นที่รู้คำตอบ
พวกเขาจะต้องชั่งน้ำหนักระหว่างทางเลือกที่คาดว่าจะเพิ่มกำไรให้ และการสูญเสียมากขึ้นในพรีเมียร์ชิพและเงินรางวัลจากยูฟ่า ในฤดูกาลหน้า
ถ้าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไม่สามารถฟื้นคืนจินตนาการและการเอาชนะอย่างท่วมท้นของพวกเขากลับมาได้ ที่นั่งหลักบางส่วนใน โอลด์ แทรฟฟอร์ด อาจจะไม่มีผู้ครอบครองอีกต่อไป
DaKinG

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC